ถ้าหากพูดถึง Social Platforms ทุกคนก็คงนึกถึง Facebook, Twitter, Instagram และ TikTok โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มที่ประสบความสำเร็จและมีฐานผู้ใช้จำนวนมหาศาลอยู่ทั่วทุกมุมโลก แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่จะประสบความสำเร็จอย่างยาวนาน เพราะมี Social Platforms อื่นๆ จำนวนไม่น้อยที่ได้ล้มหายตายจากไปบ้างแล้ว ซึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง แพลตฟอร์มเหล่านี้ก็ได้สร้างความทรงจำดีๆ ให้กับเราไม่มากก็น้อย
วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปย้อนเวลา ดู 4 Social Platforms ที่เคยเป็นที่นิยมอย่างมาก แล้วในตอนนี้แพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นอย่างไรกันบ้าง ไปดูกันเลย!
1. MySpace
MySpace เว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กสุดฮอตฮิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในช่วงปี 2005-2008 เป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้าง Profile พูดคุยกับเพื่อนๆ และสร้าง Blog ของตัวเอง โดยในช่วงที่พีคที่สุด MySpace นั้นมีผู้ใช้งานต่อเดือนมากกว่า 75 ล้านคน และในปี 2006 ก็ได้แซง Google โดยได้เลื่อนขั้นเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในปีนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จก็อยู่กับ MySpace เพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น การเข้ามาของ Facebook ได้ท้าทายการเป็นอันดับ 1ของ MySpace จนสุดท้ายก็ทำให้ผู้ใช้งานนั้นเริ่มที่จะหดหายไปเรื่อยๆ
สาเหตุของความล้มเหลวในครั้งนี้ไม่ได้มาจากการเข้ามาแทนที่ของ Facebook อย่างเดียว แต่มาจากการบริหารงานที่ผิดพลาดภายในตัวบริษัทเองด้วย ในปี 2005 บริษัท NewsCorp ได้เข้ามาซื้อกิจการของ MySpace เป็นจำนวนเงิน 580 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ MySpace ได้เปลี่ยนทิศทางของธุรกิจไปเน้นที่ ‘การหารายได้จากการโฆษณา’ แทนที่จะไปให้ความสำคัญกับ ‘การพัฒนาเว็บไซต์เพื่อเสริมประสบการณ์ของผู้ใช้งาน’ ทำให้สุดท้ายแล้ว MySpace กลายเป็นเว็บไซต์ที่มีแต่การโฆษณา ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้ใช้งานนั้นหนีออกไปใช้งานแพลตฟอร์มอื่นที่ตอบโจทย์กว่า
ต่อมาในปี 2011 NewsCorp ก็ได้ตัดสินใจขาย MySpace ให้กับ Time Inc. โดยไม่มีการเปิดเผยราคาขาย หลังจากนั้น MySpace ก็มีการรีแบรนด์อยู่หลายครั้งหลายครา และจวบจนมาถึงทุกวันนี้ MySpace ก็ได้เปลี่ยนเป็นแพลตฟอร์ม Streaming Music โดยเปลี่ยนชื่อจาก ‘MySpace’ เป็น ‘myspace’ แทน
2. MSN
ถ้าหากพูดถึงความนิยมของแพลตฟอร์มนี้ เรียกได้ว่าสมัยนั้นคงไม่มีใครไม่รู้จักโปรแกรมรับส่งข้อความแบบทันทีหรือที่เรียกกันว่า Instant Messenger อย่าง MSN
หากนึกถึง MSN เราคงนึกถึงเสียงแจ้งเตือนที่เป็นเอกลักษณ์ การตั้งชื่อและการตกแต่งสถานะสวยๆ สติ๊กเกอร์และ Emoticon น่ารักๆ รวมถึงระบบสั่นที่ชอบส่งไปเขย่าเรียกเพื่อน สิ่งเหล่านี้คงทำให้หลายๆ คนคงนึกถึงความสนุกในสมัยนั้นไม่น้อย ที่เมื่อกลับบ้านมาทีไรก็ต้องมา ‘ออนเอ็ม’ ทุกวัน
MSN นั้นเกิดขึ้นจากการที่ Microsoft เริ่มที่จะเห็นความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ Instant Message ทำให้ Microsoft ตัดสินใจที่จะพัฒนาโปรแกรม Instant Message ขึ้นมาในปี 1999 โดยใช้ชื่อว่า Microsoft Network Messenger หรือ MSN นั่นเอง ซึ่งจากฐานผู้ใช้งาน Hotmail ที่มีอยู่แล้ว ทำให้ MSN นั้นเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ในปีที่เปิดตัว MSN มีผู้ใช้งานกว่า 30 ล้านบัญชี ในปี 2004 มีผู้ใช้งานอยู่ที่ประมาณ 115 ล้านบัญชี และในปี 2011 ผู้ใช้งานของ MSN นั้นแตะอยู่ที่ 330 ล้านบัญชี
แต่สุดท้ายแล้ว MSN ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อการเข้ามาของโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และการเกิดขึ้นของสมาร์ตโฟนอย่าง BlackBerry ที่มีฟังก์ชันแชตเป็นของตัวเองอยู่ในตัวโทรศัพท์ รวมถึง iPhone ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ให้ผู้ใช้งานสามารถแชตได้อย่างง่ายดายมากขึ้น ทำให้ในปี 2014 โปรแกรมแชตในตำนานที่มีอายุกว่า 15 ปีอย่าง MSN ก็ได้ถูกปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ
3. Hi5
Hi5 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในตำนานเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์กที่วัยรุ่นไทยชอบใช้ หากพูดถึง Hi5 หลายๆ คนคงนึกถึงความสนุกที่ได้ตกแต่งหน้า Profile ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำธีม การใส่เพลง และการใส่วิดีโอเข้าไป ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้เราสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ
โดย Hi5 ได้ถูกเปิดตัวขึ้นมาในปี 2004 และในปี 2007 ก็ได้กลายมาเป็นเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก MySpace แต่อย่างไรก็ตาม Hi5 ก็ค่อนข้างที่จะมีปัญหาทางด้านความปลอดภัยของข้อมูล เนื่องจากทางเว็บไซต์ได้เปิดโอกาสให้ Third Party เข้ามาทำการโฆษณาค่อนข้างเยอะ รวมถึงไม่มีนโยบายเรื่องความปลอดภัยที่เข้มงวดพอที่จะทำให้ผู้ใช้งานนั้นไว้วางใจและในตอนนั้น Facebook ก็เร่ิมที่จะเข้ามากินส่วนแบ่งในตลาดโซเชียลเน็ตเวิร์กมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานของ Hi5 ก็เริ่มที่จะย้ายไปใช้งาน Facebook แทน
จากการแข่งขันที่ดุเดือด ทำให้ในปี 2009 Hi5 ก็ได้ปรับทิศทางไปเป็น Social Gaming Platform และกลายเป็นเว็บไซต์สำหรับคนที่สนใจจะหาคู่และพบเจอกับคนใหม่ๆ ซึ่งในปี 2011 Hi5 ก็ได้ถูกซื้อกิจการโดย Tagged และสุดท้ายในปี 2017 Hi5 และ Tagged ก็ได้ถูกซื้อโดย The Meet Group ในราคา 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
4. Vine
Vine แอปพลิเคชันสร้างและแชร์วิดีโอ 6 วินาทีที่ได้กลายเป็นแอปในดวงใจของใครหลายๆ คน ซึ่งก่อนที่ Vine จะถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2013 Twitter ก็ได้เข้าซื้อ Vine ตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งในตอนนั้น Vine ก็ถือว่าเป็นแอปพลิเคชันที่มีความสดใหม่และให้ความบันเทิงใจกับผู้ใช้งาน และได้กลายมาเป็นแอปที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่นและเหล่าคนดัง มี Content Creators จำนวนมากที่ได้แจ้งเกิดและเป็นที่รู้จักมากขึ้นจาก Vine ไม่ว่าจะเป็น Logan Paul, Lele Pons และ Zach King
อย่างไรก็ตาม ในปี 2016 Twitter ก็ได้ประกาศปิดตัวแอปพลิเคชัน Vine อย่างน่าเสียดาย เป็นผลมาจากการที่ Twitter นั้นมีปัญหาทางด้านการเงิน และ Vine ก็ไม่ได้ทำเงินได้มากขนาดที่จะพอต่อชีวิตให้กับแอปและพนักงาน รวมถึงยังมีปัจจัยในเรื่องของการแข่งขันจาก Instagram ที่ได้ออก Instagram Video ฟีเจอร์ใหม่ที่สามารถให้ผู้ใช้งานอัปโหลดวิดีโอสั้น 15 วินาที ทำให้ผู้ใช้งานส่วนมากก็หันไปใช้ Instagram Video มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ Vine ก็ได้กลับมาใหม่แล้วในชื่อว่า ‘Byte’ แต่ก็ต้องมาดูกันอีกทีว่าในขณะที่ TikTok นั้นได้กลายมาเป็นผู้นำทางด้านวิดีโอสั้นแล้ว Byte จะสามารถเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาดไปได้หรือไม่?
อ้างอิง:
https://bit.ly/2QYu5Vd
https://bit.ly/3b8DZKL
https://bit.ly/3xTgb7g
https://bit.ly/3vDiSrU
https://bit.ly/2RyO2lh
https://bit.ly/3tpJdYM
https://bit.ly/3epOuLC
https://bit.ly/3enZzx1
https://nyti.ms/3eW1dEZ
ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/
