ข้อคิดจากหนังสือ Maybe You Should Talk to Someone
1) “ความรู้สึกที่เราเก็บกดไว้ไม่เคยหายไปไหน ต้องระบายออกมาเท่านั้นถึงจะช่วยได้”
เราอาจเคยคิดว่าไม่ต้องไปคิดถึงมันหรือแค่ทำเหมือนเรื่องนั้นไม่เคยเกิดขึ้น ทุกอย่างก็จะคลี่คลายเอง แต่นี่เป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะความรู้สึกที่เก็บกดไว้นั้นไม่เคยหายไปไหน แม้เราจะมองไม่เห็น แต่มันก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตเราได้
พออาการหนักเข้า ยาคลายเครียดหรือยานอนหลับก็ทำได้แค่ช่วยบรรเทาเท่านั้น เพราะจริงๆ การรับรู้ถึงความเศร้าของตัวเองและกล้าแสดงออกทางอารมณ์ (ซึ่งก็คือกล้าที่จะเป็นคนอ่อนไหว) ต่อหน้าผู้อื่นต่างหาก จึงจะนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการหาทางออกได้
2) “เพราะไม่มีใครอยากรู้สึกเจ็บปวด เราจึงสร้างเกราะป้องกันตัวเองไว้”
หนึ่งความยากในการบำบัดเกิดขึ้นเพราะธรรมชาติของมนุษย์ ธรรมชาติที่ว่าก็คือ ‘กลไกในการป้องกันตัว’ หรือ Defense Mechanism นั่นเอง เพราะเราไม่ชอบความเจ็บปวด เราเลยหลีกเลี่ยงที่จะรู้สึกถึงมันหากทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธ การซ่อนความรู้สึก หรือการโยนความผิดให้ผู้อื่น
แต่หากเราอยากจะกลับมามีความสุขอีกครั้ง ในการบำบัดนั้นเราต้องวางเกราะป้องกันเหล่านี้ลงและทำความเข้าใจกับสาเหตุที่แท้จริง แม้จะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม
3) “เมื่อกำแพงอารมณ์ ‘พังทลาย’ ไม่ได้หมายความว่าเรา ‘เสียศูนย์’”
เมื่อโตมาเราพบว่าการระบายอารมณ์ออกมาอย่างเต็มที่ (หรือที่เราเรียกว่าการ Break Down) เป็นเรื่องไม่เป็นมืออาชีพและผู้ใหญ่ไม่ควรทำ หลายคนมองว่าการระบายอารมณ์ หมายความว่าเราเละไม่เป็นท่า แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ราวกับคำว่า Break Down อย่างแท้จริง
ทั้งๆ ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย เราแค่กำลังเปิดเผยให้ผู้อื่นรับรู้ถึงสภาพจิตใจของเรา ณ ขณะนั้นต่างหาก ถ้าเราซ่อนแผลไว้ไม่ให้แม้แต่ตัวเองเห็น เราคงเยียวยามันไม่ได้
ร้องไห้ราวกับกำลังแตกสลายไปเลยก็ได้ แต่ทุกครั้งที่ระบายอารมณ์และพักจนพอใจแล้ว อย่าลืมว่าเราสามารถหยิบชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายอยู่ มาประกอบร่างสร้างเป็นตัวเรา และใช้ชีวิตต่อไปได้อีกครั้ง
..นี่เป็นเพียง 3 ข้อคิดตัวอย่างจากบทเรียนมากมายในหนังสือ Maybe You Should Talk to Someone เท่านั้น มาดูกันดีกว่าทำไม #Missionชวนอ่าน หนังสือเล่มนี้
ทำไมต้องอ่าน Maybe You Should Talk to Someone ถึงเวลาหรือยังที่เราควรเปิดใจ “ระบาย” กับใครสักคน
ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่กำลังเผชิญกับอาการนอนไม่หลับ อยากร้องไห้ไม่รู้สาเหตุ รู้สึกว่างเปล่า ไร้จุดหมาย ไม่ยินดียินร้าย แต่ก็ไม่ได้มีความสุข หรือเพียงแค่อยากเข้าใจตัวเองและดูแลสภาพจิตใจให้ดีขึ้น หนังสือเล่มนี้อาจเป็นเล่มที่คุณกำลังมองหา
หนังสือ Maybe You Should Talk to Someone หรือชื่อไทยว่า “เพราะนี่คือสิ่งที่ (นักจิตวิทยา) ไม่เคยบอก” จะพาเราไปสำรวจจิตใจอันซับซ้อนของมนุษย์ ว่าเพราะเหตุใดบาดแผลในชีวิตที่เรานึกไม่ถึงกลับส่งผลต่อเราในหลายด้านๆ ทำไมเราถึงหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด และทำไมเราถึงทำพฤติกรรมทำร้ายตัวเองซ้ำๆ ผ่านประสบการณ์และเรื่องราวต่างๆ ของคนไข้ที่มาบำบัดกับผู้เขียน ‘ลอรี ก็อธลีบ’ ซึ่งเป็นนักจิตวิทยา รวมถึงประสบการณ์ของตัวผู้เขียนที่เผชิญกับช่วงเวลายากลำบากจนต้องเข้ารับคำปรึกษาเอง
หนังสือจะทำให้เราเข้าใจว่าอารมณ์ลบที่เราเผชิญในชีวิตเป็นเรื่องปกติ มีเหตุผลมากมายที่ทำให้มนุษย์รู้สึกย่ำแย่ และการได้ระบายอารมณ์นี้เอง คือการเยียวยาวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราตามหาความสุขและใช้ชีวิตต่อไปได้อีกครั้ง
อย่าละเลยสุขภาพจิตจนสายไป ลองมาดูแลจิตใจของเราเองผ่านการพูดคุยกับใครสักคนกันนะ
📖 รายละเอียดหนังสือ
ชื่ออังกฤษ : Maybe You Should Talk to Someone
ชื่อไทย : เพราะนี่คือสิ่งที่ (นักจิตวิทยา) ไม่เคยบอก
ผู้เขียน : Lori Gottleib (ลอรี ก็อธลีบ)
ราคา : 663.- (ฉบับภาษาอังกฤษ) และ 359.- (ฉบับภาษาไทย)
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#books
