สูตรความสำเร็จของมหาเศรษฐี

900
มีเวลาไม่เยอะอยากอ่านสั้นๆ
  • คุณวิชัย ทองแตง มหาเศรษฐี ลำดับที่ 19 ของเมืองไทย เล่าเรื่องราวชีวิตให้ฟังพร้อมสูตรสำเร็จของการเป็นมหาเศรษฐี
  • สูตรแรก แสวงหาความธรรมดาของตัวเอง ซึ่งอาจจะเป็นอะไรก็ได้ เช่น พื้นที่ในการแสดงออก ความก้าวหน้าในชีวิต เป็นต้น
  • สูตรที่สอง รู้จักกับความสำเร็จและความล้มเหลว และเรียนรู้กับมัน
  • สูตรที่สาม เรียนรู้และทำความเข้าใจกับปัญหา
  • สูตรที่สี่ ทุกการตัดสินใจต้องมีความสมเหตุสมผลเสมอ
  • สูตรที่ห้า มุ่งมั่นและแสวงหาโอกาสอยู่เสมอ

วันนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษมากที่ได้ฟังคุณวิชัย ทองแตง มหาเศรษฐี ลำดับที่ 19 ของเมืองไทย มาเล่าผลึกของชีวิตให้ฟัง ผ่านคำไม่กี่คำที่คุณวิชัยให้คำนิยามว่าเป็นสูตรสำเร็จของชีวิตผู้ชายอายุ 69 ปีคนนี้

ผู้ชายที่เริ่มต้นชีวิตด้วยการเป็นเด็กบ้านนอก ชีวิตเริ่มต้นจากศูนย์จนสำเร็จอย่างมหาศาล

billionaire mindset

สูตรที่หนึ่ง: ความธรรมดา

สูตรสำเร็จที่คุณวิชัยเล่าผ่านคำเหล่านี้ คำแรกคือ คำว่า ธรรมดา

Advertisements

คำสอนของพ่อคุณวิชัยคือ สิ่งที่เป็นความธรรมดา ที่ชีวิตเราต้องไหลเวียนไปตามวัฏจักรทั้งหลายเหล่านั้น สำหรับคนเก่ง คำว่าธรรมดาคือการต้องการพื้นที่ในการแสดงออกและการยอมรับ ธรรมดาของคนเก่งต้องการการเรียนรู้และการนำพาตัวเองไปสู้เป้าหมาย ธรรมดาของมนุษย์เงินเดือนคือความก้าวหน้าและความมั่นคง

ยกตัวอย่าง ตอนคุณวิชัยเป็นทนายความ คุณวิชัยต้องหาความธรรมดาอยู่สองอย่าง ข้อที่หนึ่งคือ ต้องหาปรัชญาของปัญหาให้เจอ ข้อที่สองคือ หาบรรทัดฐาน (norm) ให้เจอ เวลาอยู่ท่ามกลางปัญหาต้องตั้งสติว่าคุณอยู่ในเรื่องอะไรกันแน่ 

นี่คือความธรรมดานั่นเอง อยากสำเร็จ ต้องเริ่มแสวงหาความธรรมดาของตัวเอง


สูตรที่สองคือ ความสำเร็จ และความล้มเหลว

ทุกคนต้องเจอกับความล้มเหลวแต่เราจะยอมให้ความล้มเหลวมาเป็นอาจารย์ของเราหรือเปล่า เพราะหนทางไปสู่ความสำเร็จนั้นย่อมมีความล้มเหลวตลอดทาง

ความล้มเหลวไม่ได้มีแต่ข้อเสีย แม้เราจะทำผิดพลาด แต่หากเรายอมรับและรู้จักเรียนรู้จากบทเรียน ความล้มเหลวเราจะโตขึ้น หากคุณอยากประสบความสำเร็จ คุณต้องกล้าเสี่ยง คนที่จะมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จได้นั้นจะต้องมีความกระหายที่จะเผชิญกับสิ่งที่ท้าทาย

อย่างคุณวิชัยเองนั้น ชอบทำธุรกิจประเภทความเสี่ยงสูงผลตอบแทนสูง (high risk high return) จุดประสงค์คือ อยากทำให้ธรุกิจแบบนี้กลายเป็นความเสี่ยงต่ำผลตอบแทนสูง (low risk high return) เมื่อนั้นถือว่าคุณทำสำเร็จ แต่คุณวิชัยบอกว่ามันไม่ง่าย คุณวิชัยเองก็ไม่ได้ทำได้ทุกครั้ง

เมื่อใดสำเร็จ ภูมิใจได้เพราะเราก็เป็นมนุษย์ที่มีหัวใจนิ่มๆ ภูมิใจได้แต่อย่าอหังการ


สูตรที่สามคือ ปัญหา

สิ่งที่สำคัญไม่ใช่ปัญหา แต่คือการเรียนรู้ ทำความเข้าใจกับปัญหา และอยู่กับมันให้ได้ ผมขอแปลให้ว่า It’s not the problem that usually the problem, it’s how you react with the problem that usually the problem


สูตรที่สี่คือ การตัดสินใจ  

สั้นๆเลย คือทุกการตัดสินใจ (judgement) ต้องมีตรรกะ (logic) เสมอ ถ้าไม่มีต้องหามันให้เจอ

ตอนทำเรื่องหุ้น คุณวิชัยจะเทคโอเวอร์บริษัทอะไรก็ต้องหาตรรกะก่อน เช่น ถ้าจะลงทุนในบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ก็ต้องดูว่าจังหวะเวลาที่เหมาะสม อย่างช่วงสองปีนี้รัฐบาลกำลังลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) อย่างมหาศาล เพราะฉะนั้นการเข้าซื้อบริษัทรับเหมาก่อสร้างจึงเป็นตรรกะที่ถูกต้อง

เรื่องนี้แม้ฟังดูเบสิกแต่หลายคนมาพลาดเรื่องแบบนี้เยอะแยะแล้ว


สูตรที่ห้าคือ โอกาส

คุณวิชัยยืนยันว่าคนที่มุ่งมั่นแสวงหาโอกาสนั้นหาได้ไม่ยาก อาจารย์ของคุณวิชัยที่จบแค่ป.4 เคยสอนคุณวิชัยไว้ว่า เมื่อโอกาสเข้ามาให้ บวก ลบ คูณ หาร โดยมีสูตรง่ายๆดังนี้

Advertisements

บวก = PRO, ลบ = CON, คูณ = Value/Synergy, หาร = Risk

เมื่อเมษายน 2553 คุณวิชัยมีดีลใหญ่มากคือ การตัดสินในการควบรวมกิจการระหว่างโรงพยาบาลพญาไทและโรงพยาบาลเปาโล ซึ่งมีรวมกัน 8 โรงพยาบาล กับ โรงพยาบาลกรุงเทพซึ่งตอนนั้นมี 22 โรงพยาบาล รวมกันทั้งหมดเป็น 30 โรงพยาบาล

คุณวิชัยก็ใช้สูตรนี้เลย สิ่งแรกที่คุณวิชัยดูคือ

1. คูณ คือการหาการประสานงานกัน (synergy) เมื่อควบรวมกันแล้วเป็นการประสานงานร่วมกันไหม คำตอบคือใช่

โดยมีการประสานงานกันข้อหนึ่งคือ หมอทั้งสามสิบโรงพยาบาลสามารถหมุนเวียนไหลกันไปได้ สอง มีกองทัพพยาบาลเป็นหลักหมื่นคน กลายเป็นกลุ่มโรงพยาบาลที่มีพยาบาลที่จบปริญญาโทมากที่สุด สาม ควบรวมกันแล้วสามารถดูแลคนได้ทุกภาคส่วน ตั้งแต่ประกันสังคมจนถึง A+ (BDMS ปัจจุบันมี 44 โรงพยาบาล) สี่ คือเครื่องมือแพทย์ เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว BDMS เพิ่งตัดสินใจลงทุนในแล็บที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ลงทุนแล็บใหญ่ที่ดีสุดๆ เพียงแค่แล็บเดียว ถือว่าคุ้มและดีกว่าการลงทุนในแล็บเล็กๆในหลายโรงพยาบาล

2. บวก/ลบ คือ PRO/CON 

คุณวิชัยต้องคิดว่าจากหัวสุนัขมาเป็นหางราชสีห์ ตัวเองจะรับได้ไหมกับการต้องเป็นผู้ถือหุ้นอันดับสอง รองจาก คุณปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ คุณวิชัยบอกว่ารับได้เพราะน้ำหนักของการทำงานร่วมกันมีคุณค่ามากกว่า

3. หาร คือการดูความเสี่ยงซึ่งธุรกิจโรงพยาบาลล้วนมีความเสี่ยงเหมือนๆกันหมด 

นั่นคือการถูกเรียกร้องจากผู้ใช้บริการ การควบรวมคุณวิชัยมองว่าไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงตรงนี้ และแบรนด์ที่คุณประเสรฺิฐปั้นมาก็มีความน่าเชื่อถือระดับเอเชีย เพราะฉะนั้นความเสี่ยงตรงนี้มองว่าเท่าเดิม

จากการตัดสินใจควบรวมกิจการครั้งนั้น ปัจจุบัน BDMS เป็นกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนอันดับ 5 ของโลก แต่มีกำไรต่อหุ้น (EPS: Earnings per share) อันดับ 1 ของโลก!


สุดท้ายคุณวิชัยกลับมาพูดเรื่องความธรรมดา และหยิบถุงกระดาษขึ้นมาสามใบเหมือนในภาพ ความธรรมดาของคุณวิชัยคือสิ่งนี้  

กระดาษใช้แล้วไม่เคยทิ้ง 

ทุกวันนี้เดินทางไปต่างประเทศ คุณวิชัยเอาถุงนี้ไปด้วย ถ้าไปหลายคืนเอาถุงใหญ่ ถ้าไปคืนเดียวเอาถุงเล็ก 

เอาไว้ทิ้งขยะ!

คุณวิชัยบอกว่าเงินเป็นของคุณ แต่ทรัพยากรเป็นของโลก เราต้องช่วยกันรักษามันไว้  

นี่คือความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ของสุดยอดนักธุรกิจชื่อ วิชัย ทองแตง ครับ

Advertisements

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่