เวลาดูใจกับใครอยู่ ก็ต้องเปิดไพ่ดูว่าเขาคือคู่เราจริงไหม
วันไหนมีพรีเซนต์งานสำคัญ ก็ต้องเปิดตารางสีมงคลก่อนออกจากบ้าน
หรือกำลังหางานใหม่ ก็ต้องไปดูดวงว่าจะได้ที่นี่หรือเปล่า
นี่คงเป็นชีวิตของใครหลายคน ที่พอมองกลับมาอีกที “โหราศาสตร์” ก็ได้กลายเป็นสิ่งที่แทรกซึมเข้ามาในชีวิตประจำวันของเราแบบไม่ได้ตั้งใจ กว่าจะรู้ตัว หน้าฟีดก็เต็มไปด้วยวงล้อคำทำนายไปแล้ว
“โหราศาสตร์” เป็นศาสตร์ที่ใช้ดวงดาวในการพยากรณ์เหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งถือว่าไม่ได้เป็นศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์หาหลักเหตุและผลได้เหมือนอย่างวิทยาศาสตร์เลย แต่เคยสงสัยบ้างไหม ว่าแล้วทำไมเวลาชีวิตของเราเกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นด้านการงาน การเงิน หรือความรัก เราถึงเลือกที่จะพึ่งพาโหราศาสตร์กันนะ?
ความเชื่อในโหราศาสตร์เป็นกลไกรับมือทางจิตใจ
จากผลงานวิจัยเรื่อง Belief in Astrology as a Strategy For Self-Verification and Coping With Negative Life-Events ของนักจิตวิทยาชาวยุโรป ในปี 1998 พบว่า คนที่ต้องประสบกับวิกฤตเฉียบพลันในชีวิต เช่น ภาวะตกงาน การหย่าร้าง มักมีความเชื่อในหลักโหราศาสตร์ เพราะเป็นสิ่งที่สามารถทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นได้ในระยะเวลาสั้นๆ
และยังมีนักวิชาการอีกมากมายที่กล่าวว่า แม้ข้อมูลเรื่องโหราศาสตร์จะเปรียบเสมือนภาพลวงตา แต่หากมันเป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจถึงสถานการณ์ต่างๆ หรือเข้าใจโลกมากขึ้น ความเชื่อในโหราศาสตร์นี้ก็เป็นเหมือนกับกระบวนการ “Coping Mechanism” หนึ่งกลไกที่ช่วยให้จิตใจของคนสามารถรับมือกับปัญหาที่เผชิญอยู่ได้
ดังนั้น โหราศาสตร์จึงเข้ามาเป็นศาสตร์ในชีวิตประจำวันของคน เพราะมีความเชื่อมโยงกับความรู้สึกภายในจิตใจเป็นหลัก จึงไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นคนอกหักหรือตกงานหันมาพึ่งพาคำทำนายสำหรับการตัดสินใจเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และลองมาดูกันว่า คุณมีความเชื่อในโหราศาสตร์จากเหตุผลเหล่านี้หรือไม
4 เหตุผล ที่ทำให้เราสนใจและเชื่อเรื่องโหราศาสตร์
1. โหราศาสตร์ช่วยให้เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้
อย่างที่ได้เกริ่นไปในตอนต้น ว่าจริงๆ แล้วโหราศาสตร์เป็นเรื่องของการเยียวยาจิตใจ ทำให้ในช่วงเวลาที่บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายทางการเมือง และภาวะโรคระบาดอย่างในปัจจุบัน ยิ่งเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผู้คนเกิดความกังวล หวาดกลัว และรู้สึกถึงความไม่มั่นคงภายในจิตใจ จึงเลือกที่จะเชื่อและพึ่งพาในโหราศาสตร์ เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจแทนสถาบันทางการปกครองหรือสถาบันทางสังคมอื่น ๆ ที่กำลังสั่นคลอน
จึงกล่าวได้ว่า โหราศาสตร์ถูกใช้เป็นเกราะป้องกันจิตใจในสภาวะที่คนมีความเครียดสูง เห็นได้จากข้อมูล Google Trends ของสหราชอาณาจักร ในปี 2020 ที่มียอดการค้นหาเรื่องโหราศาสตร์ อย่างราศีและแผนภูมิดวงชะตา เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากโลกกำลังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั่นเอง
2. โหราศาสตร์ช่วยให้เรารู้สึกว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้
จากอิทธิพลของโหราศาสตร์ที่สามารถชี้แนะให้คนเกิดความคิดหรือการกระทำได้จากการทำนายโชคชะตา จึงเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้คนที่ต้องการอำนาจในการควบคุมปัจจัยภายนอกได้
เมื่อเรารู้ว่าวันนี้จะต้องใส่เสื้อสีอะไร หรือต้องระวังสิ่งใดเป็นพิเศษ หากมีเหตุการณ์หรือปัญหาเกิดขึ้นจริง และเราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี ก็ย่อมทำให้เราเกิดความรู้สึกเชิงบวกกับความเชื่อนั้นทันที
3. โหราศาสตร์ช่วยเราค้นหาตัวตนที่แท้จริง
เจนิเฟอร์ ฟรีด นักจิตวิทยาและโหราศาสตร์ กล่าวว่า โหราศาสตร์เป็นเครื่องมือที่ใช้ค้นหาและยืนยันเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครของแต่ละบุคคล เพื่อให้ผู้คนรู้สึกมีกำลังใจจากการได้รับข้อมูลที่สนับสนุนในตัวตนของตัวเอง
โดยเฉพาะการเน้นนำเสนอข้อมูลเชิงบวกที่ ‘คลุมเครือ’ ทำให้คนเกิดการเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลกับตัวเองได้ง่าย และยังส่งเสริมให้เกิดการตรวจสอบตัวตนในมุมมองของตัวเอง (Self-concept) ให้ชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับที่โหราศาสตร์มีการใช้ข้อมูลเกี่ยวกับ วัน เดือน และปีเกิดของแต่ละคนด้วย จึงยิ่งทำให้คนรู้สึกว่าคำทำนายนั้นมีความน่าเชื่อถือสูง
ตัวอย่างเช่น คนที่เกิดระหว่างวันที่ 14 มกราคม ถึง 12 กุมภาพันธ์ ราศีมังกร เป็นคนช่างฝันและมองการณ์ไกล ชอบที่จะวางแผนเพื่ออนาคตอยู่เสมอ เป็นการกล่าวถึงอุปนิสัยเชิงบวกแบบกว้างๆ ไม่เจาะจง ทำให้กลุ่มคนที่มีวันและเดือนเกิดตรงกับคำทำนายนี้ เกิดการเชื่อมโยงกับตัวเองได้หลายแง่มุม
4. โหราศาสตร์ช่วยตอบคำถามที่ไม่มีใครตอบได้
ต้องยอมรับว่ามนุษย์เรามีชีวิตอยู่เพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง เพื่อให้เข้าใจเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ ซึ่งโหราศาสตร์ก็เป็นศาสตร์ที่ช่วยเราหาคำตอบนั้นผ่านการทำนายตัวตนและโชคชะตา
เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาที่รู้สึกว่าไม่สามารถแก้ไขได้ บางครั้งเราจึงเลือกใช้โหราศาสตร์มาเป็นตัวช่วยในการหาคำตอบเพื่อการตัดสินใจ เช่น การทำนายอนาคต ถึงเราจะรู้ว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงอาจไม่ได้เป็นไปตามนั้น แต่มันก็ช่วยให้เราได้คำตอบ และกลับมาประเมินทางเลือกที่มีในปัจจุบันได้ดีขึ้น
อย่างในบางครั้งที่เราอาจไม่มั่นใจว่า หากเราต้องการเปลี่ยนอาชีพไปในสายงานที่ไม่เคยทำมาก่อนจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แน่นอนว่าเราไม่มีทางรู้คำตอบ เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต แต่หากเราพึ่งพาคำทำนายจากโชคชะตา และผลลัพธ์ออกมาว่าเราจะเติบโตได้ดีในสายงานใหม่นี้ ก็จะทำให้เราได้รู้และตัดสินใจลาออกจากงานที่ทำอยู่ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
โหราศาสตร์เชื่อมโยงระหว่างจิตใจและโลก
ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายนี้ ทำให้ผู้คนเกิดภาวะ “ความไม่แน่นอนเชิงเหตุผล” จากการพยายามตามหาเบื้องหลังของเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่เป็นนามธรรมอย่างศรัทธา ชีวิต และความรัก กลับทำให้คนเกิดความสบายใจได้มากกว่าเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เหล่านั้น
นอกจากที่โหราศาสตร์จะทำให้เราตระหนักรู้และเข้าใจในตัวเองได้แล้ว ยังช่วยให้รู้ว่ามนุษย์มีองค์ประกอบที่สามารถเชื่อมโยงกันได้ และในขณะเดียวกันแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยากจะเข้าใจเช่นกัน
ศาสตร์ที่สามารถเข้าถึงจิตใจของคนได้จึงสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการโน้มน้าวให้คนเกิดความเชื่อได้ต่อไป จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะมีอาชีพอย่าง “หมอดู” จึงได้รับความนิยมสูงขึ้นมากในปัจจุบัน
อ้างอิง
– The Psychology Behind Why We Care about Astrology: Theodora Blanchfield, AMFT : https://bit.ly/3gp96aZ
– Stargazing or Astrology? : MARGHERITA FERRERO : https://bit.ly/3OyPgXd
– Why is everyone suddenly so obsessed with astrology? : CLEMENTINE PRENDERGAST, VOGUE : https://bit.ly/3TZ3AcH
#trend
#psychology
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast