ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ส่งผลให้เทคโนโลยีถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการทำงานระยะไกล ซึ่งกลายเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเห็นจุดบกพร่องของปัญหาบางอย่าง ถึงแม้ว่าปัญหานั้นจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่กลับส่งผลกระทบอย่างมากต่อวิธีการทำงาน และสิ่งเหล่านี้เอง ที่ทำให้เกิดเป็นแนวคิดที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาและต่อยอดเป็นไอเดียใหม่ๆ ได้มากมาย
บทความของ Fastcompany ได้รวบรวมไอเดียแอปพลิเคชันสุดล้ำในปี 2020 ที่ผ่านมา ที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานของปี 2021 เพื่อให้ทุกคนทำงานจากที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
1.ปุ่มการประชุมอเนกประสงค์จาก Fantastical
เป็นช่วงเวลาที่หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต่างพากันพัฒนาฟีเจอร์ด้านการประชุมออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น Google ได้ออกแบบเพิ่มปุ่ม Google Meet ไว้ในหน้า Google Calendar เป็นต้น
รวมถึงแอปพลิเคชันการจัดการประชุมอเนกประสงค์อย่าง Fantastical สำหรับ macOS, iOS, iPadOS และ watchOS ที่มีการเก็บข้อมูลและใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันอื่นได้แบบครบวงจรมากขึ้น ตั้งแต่การบันทึกข้อมูลและการแจ้งเตือนงาน แบบรายวัน รายเดือน หรือรายปี ได้อย่างครบถ้วน สามารถจัดตารางงาน Event ได้สะดวกสบายมากขึ้น รวมถึงฟีเจอร์การพยากรณ์อากาศภายในแอปพลิเคชันก็มีเช่นกัน
2.กล้อง Webcams คุณภาพสูง
ในขณะนี้การสื่อสารผ่านกล้องเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราได้เจอหน้าเพื่อนร่วมงานกันได้มากว่าในชีวิตจริง จึงเกิดเป็นการพัฒนากล้องแบบ DSLR ที่สามารถนำไปใช้เป็น Webcams เพื่อคุณภาพของภาพที่ชัดเจนและสมจริงมากขึ้น ในตอนนี้ก็มี Cannon, Fujifilm, Olympus และ Sony ก็กำลังเร่งมือพัฒนาให้ตัวกล้องเหมาะสมกับการนำมาใช้งานแบบ Webcams มากขึ้น
3. Zoom ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟส่อง
Zoom ออกฟีเจอร์ที่สามารถให้ผู้ใช้งานตั้งค่าการปรับแสงเพิ่มเติมใน Zoom ได้ในตัว โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริมมาช่วย ซึ่งการปรับแสงจะช่วยให้คุณภาพของภาพดีมากขึ้น การตั้งค่าปรับแสงในแอปพลิเคชันตอนนี้มีเพียงแค่ใน Zoom เท่านั้น ส่วน Google Meet ยังสามารถปรับความสว่างอัตโนมัติได้เฉพาะในอุปกรณ์ที่เคลื่อนที่เท่านั้น
4. Family Bell ช่วยเตือนเวลาเรียนลูก
ฟีเจอร์ Family Bell จาก Google สามารถช่วยแจ้งเตือนเวลาเรียนออนไลน์ของลูกได้ โดยสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนซ้ำ บนอุปกรณ์ที่เป็น Google Assistant เช่น Nest หรือจอแสดงผลอัจฉรินะ Nest Hub Max
ซึ่งสามารถกดตั้งค่า Family Bell ในแอป Google Home ได้ โดยกดที่ไอคอนโปรไฟล์และกดตั้งค่า Assistant จากนั้นกดเลือก Family Bell เพื่อเปิดการแจ้งเตือน
5.เดินทางเสมือนจริงด้วย Microsoft Teams
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะกำลังอยู่ในช่วงพัฒนา แต่ Microsoft Team กำลังวางแผนที่จะเพิ่ม “Virtual Commute” ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดช่วงเวลาในการทำงานของตัวเองได้ เพื่อตั้งเป้าหมายการทำงานและหาเวลาฟื้นฟูสภาพจิตใจของตัวเองได้
โดยในตอนนี้สามารถใช้โปรแกรม Reclaim.ai เพื่อกำหนดและจัดอันดับแบ่งแยกเวลาส่วนตัวออกและเวลางานได้อย่างง่ายดาย
6. Working Den เตือนให้พักสายตา
การนั่งทำงานที่บ้านอาจทำให้คุณจ้องหน้าจอมากเกินไปจนลืมตัว เพราะไม่ต้องหันไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเหมือนอยู่ออฟฟิศ จึงเกิดไอเดียการสร้างเว็บไซต์ที่ชื่อว่า Working Den ที่จะเข้ามาคอยช่วยแจ้งเตือนทุก 20 นาที เพื่อให้คุณพักสายตาสัก 20 วินาที โดยการมองสิ่งรอบตัวที่ห่างจากจอคอมพิวเตอร์ไป 20 ฟุต ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านแว่นตาได้บอกไว้ว่า “กฎ 20-20-20” จะสามารถช่วยป้องกันอาการปวดตาได้และช่วยให้สมองคุณปลอดโปร่งมากขึ้น
7. เลือกรับการแจ้งเตือนด้วย Hey
บริการจากแอปพลิเคชัน Hey ที่มีการใช้งานแบบ “Screener” ซึ่งจะคอยเป็นคัดกรอง ในการรับอีเมลจากบุคคลที่เราอนุญาตแล้วเท่านั้น เมื่อใดก็ตามที่มีบุคคลที่ไม่รู้จักส่งอีเมลมา คุณสามารถกดเลือกอนุญาตหรือเลือกย้ายไปที่ Screened Out ที่เป็นกล่องจดหมายแยก และแอปพลิเคชันนี้สามารถแยกจดหมายข่าวหรือจดหมายด้านธุรกรรมต่างๆ เพื่อช่วยไม่ให้กล่องจดหมายคุณรกมากเกินไป ซึ่งแนวคิดนี้ทาง Chrome ก็ได้นำมาใช้ โดยการเพิ่มคุณสมบัติ ZenMail เพื่อเป็นตัวคัดกรองอีเมลขยะได้เช่นกัน
8. Google Wi-Fi ช่วยจัดลำดับความสำคัญ
ความเร็วของอินเทอร์เน็ตเป็นปัญหาหนึ่งสำหรับการทำงานเช่นกัน เลยเกิดเป็นไอเดียของ Google Wi-Fi และ Nest Wi-Fi ที่สามารถจัดลำดับความสำคัญของแอปพลิเคชันที่ใช้ในการทำงานอย่าง Zoom หรือ Google Meet ได้ สามารถกดตั้งค่าในแอป Google Home ให้เป็น “Preferred Activity” ซึ่งเราเตอร์ของ Google จะกำหนด Bandwidth ที่จะส่งผลถึงความเร็วในการส่งข้อมูลของอินเทอร์เน็ตให้กับ Zoom และ Google Meet ก่อน
9. สร้างพื้นที่เสมือนจริงด้วย Microsoft
การสร้างพื้นที่เสมือนจริงของ Microsoft ที่นำภาพคนในที่ประชุมมารวมกันใน Background ห้องประชุม ให้ความรู้สึกเหมือนทุกคนได้มารวมตัวกันจริงๆ ซึ่งช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าและความรู้สึกอึดอัดในการประชุมออนไลน์ได้ เมื่อไม่นานมานี้ Microsoft ได้เพิ่มคุณสมบัตินี้ใว้บน Skype ด้วยเช่นกัน
อ้างอิง: http://bit.ly/3hYfr9u
Advertisements
