เรามักจะลิสต์ “สิ่งที่ต้องทำ” ในแต่ละวันออกมา เพื่อบอกตัวเองว่าภาระหน้าที่นั้นมีอะไรบ้าง แล้วเคยคิดไหมว่า เราควรมีลิสต์ “สิ่งที่อย่าทำ” ในแต่ละวันด้วยหรือเปล่า?
ในบทความเรื่อง “How A ‘Not-To-Do List’ Has Doubled My Productivity” โดย Jari Roomer บนเว็บไซต์ Medium ได้พูดถึงการ “ไม่ทำ” บางสิ่งบางอย่าง ที่ผู้เขียนพิสูจน์แล้วว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น เพราะเป็นการกำจัดสิ่งที่เรียกว่า ‘สิ่งกีดขวาง’ ซึ่งอาจเป็นพฤติกรรมของเรา ที่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมในการทำงาน
วันนี้เราจึงเลือกพฤติกรรมส่วนหนึ่งที่ Jari Roomer แนะนำว่า ‘อย่าทำ’ มาฝากกัน ให้คุณนำไปปรับใช้เพื่อปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม
1. อย่าเช็กมือถือทันทีที่ตื่นนอน
ผู้เขียนระบุไว้ว่า พยายามอย่าเช็กมือถือก่อน 11 โมงเช้า และทางที่ดีควรนำมันไปไว้ไกลๆ ตัวไปเลย เราจะได้โฟกัสกับงานแรกของวันที่สำคัญที่สุด แต่จริงๆ คุณสามารถกำหนดเวลาเองได้ตามความเหมาะสม แต่ขอให้ทำอย่างสม่ำเสมอก็พอ
2. อย่าดื่มกาแฟเกินวันละ 2 แก้ว
คนทำงานมักติดกาแฟ หลายๆ คนดื่มวันละ 4-5 แก้วตั้งแต่เช้าจนถึงก่อนเข้านอน ซึ่งปริมาณคาเฟอีนที่มากเกินไปจะยิ่งทำให้ร่างกายของคุณแย่ ดังนั้น ควรจำกัดปริมาณกาแฟที่ 1-2 แก้วต่อวัน และไม่ควรดื่มหลังบ่ายสาม เพราะอาจส่งผลต่อการนอนหลับได้
3. อย่าทำงานแทรก
เลือกงานที่ด่วนที่สุดหรือสำคัญที่สุดมาหนึ่งชิ้น และมุ่งมั่นในการทำมันให้เสร็จ หากในระหว่างนั้นมีงานอื่นๆ เข้ามาก็อย่าเพิ่งหยิบมาทำแทรกงานเดิม เพราะจะทำให้คุณเสียสมาธิ และอาจส่งผลให้คุณทำงานไม่ได้ดีสักชิ้นเลยก็ได้
4. อย่าเล่นมือถือก่อนนอน
เรามักได้ยินคำเตือนเรื่องแสงสีฟ้าจากหน้าจอสมาร์ตโฟน รวมถึงแท็บเล็ตกันอยู่บ่อยๆ ว่ามันจะส่งผลต่อรูม่านตาและกระตุ้นให้สมองตื่นตัว ดังนั้น คุณจึงไม่ควรเล่นโทรศัพท์ก่อนเข้านอน เพื่อให้คุณได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ได้จริงๆ
5. อย่านัดคนเยอะเกินใน 1 อาทิตย์
ตอนต้นสัปดาห์คุณอาจเพลิดเพลินกับการลงตารางนัดคนนั้นคนนี้มากมาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป พลังงานในการใช้ชีวิตก็จะค่อยๆ ลดลง จนในบางวันคุณอาจจะไม่อยากพบปะพูดคุยกับใครอีกเลยก็ได้ ดังนั้น เผื่อเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อน นอนเล่นอยู่บ้าน ปลูกต้นไม้ อ่านหนังสือ หรือเล่นกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด จะเป็นการรีชาร์จพลังงานให้ตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
6. อย่ายึดติดกับปัญหามากกว่าวิธีแก้
ทุกๆ งานล้วนมีปัญหา จนอาจพูดได้ว่า บริษัทจ้างคุณมาแก้ปัญหานั่นแหละ แต่การนำปัญหามาเป็นทุกอย่างของชีวิตจะยิ่งทำให้คุณเครียด และกังวลจนทำงานได้ไม่ดี ในทางกลับกัน การพยายามคิดถึงวิธีแก้ปัญหา หรือไอเดียใหม่ๆ จะช่วยให้คุณรู้สึกมีชีวิตชีวากว่ามาก ลองปรับวิธีคิดของตัวเองใหม่ ด้วยการให้น้ำหนักกับการแก้ปัญหาเป็นสำคัญ
7. อย่าใช้วันหยุดไปกับสิ่งที่เกี่ยวกับงาน
ข้อนี้อาจจะยากสักหน่อย ในตอนนี้ที่เราสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา กระทั่งวันหยุดสุดสัปดาห์เราก็ยังจะตอบอีเมลหรือไลน์ลูกค้ากันอยู่เลย ถ้าคุณห้ามความจำเป็นเร่งด่วนเหล่านั้นไม่ได้ อาจใช้วิธีจำกัดเวลาในการทำงานวันหยุดเป็นช่วงๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้พักผ่อนกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ รวมถึงการมีเวลาในการเรียนรู้สิ่งที่ตัวเองสนใจด้วย