โลก Metaverse จะมีกี่ใบกัน? ส่องแผน 4 บริษัทเทคฯ ระดับโลก ที่กำลังสร้างโลก Metaverse ของตัวเอง

696
4 Global Tech Companies That Are Building the Metaverse Universe

ท้ายที่สุดแล้ว โลกของ Metaverse จะมีกี่ใบกันแน่?

หากพูดถึง Metaverse กันแล้ว เชื่อว่าบริษัทเดียวที่เรามักจะนึกถึงก็คงหนีไม่พ้น “Facebook” ที่ตอนนี้ได้ปลี่ยนชื่อเป็น “Meta” ถึงแม้ว่าคำว่า Metaverse จะเกิดมาตั้งแต่ปี 1992 ในนิยายวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อว่า “Snow Crash” เขียนโดย Niel Stephenson

แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ที่ทำให้กระแส “Metaverse” มาเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และเป็นแรงกระเพื่อมสำคัญให้กับวงการธุรกิจ คงจะเป็น มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ที่ได้ประกาศวิสัยทัศน์ระยะยาวเกี่ยวกับการก้าวจากโซเชียลมีเดียสู่การสร้างโลกเสมือนจริงอีกใบหนึ่ง

ทำให้หลายๆ คนที่อาจจะไม่ได้ติดตามเรื่องของ Metaverse แบบใกล้ชิดอาจจะเข้าใจว่า Metaverse เป็นของ Meta หรือจะถูกสร้างโดย Meta แต่เพียงผู้เดียว แต่ความจริงแล้วยังมีผู้เล่นรายสำคัญหลายรายที่จะเข้ามาสร้างโลก Metaverse เป็นของตัวเอง

ทำให้ในอนาคต เราอาจจะไม่ได้มีโลก Metaverse แค่ใบเดียวเท่านั้น ซึ่งโลกแต่ละใบก็มีความแตกต่างกันออกไปตามผู้พัฒนา แต่ก็ยังเป็นที่น่าสงสัยว่าแล้วสุดท้ายโลก Metaverse กับชีวิตของเราจะออกมาเป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตาม “แพลตฟอร์ม” ก็เป็นประตูด่านแรกๆ ของเรา แบรนด์และภาคธุรกิจที่จะก้าวสู่โลกใบใหม่ ทำให้วันนี้เราก็จะพาไปดูว่าแต่ละบริษัทเทคฯ เหล่านี้จะมีรูปแบบแนวทางการพัฒนา Metaverse ออกมาอย่างไรกันบ้าง

โลก Metaverse จะมีกี่ใบกัน 02

Baidu

หากพูดถึง Baidu กันแล้ว หลายคนน่าจะจำ Baidu ได้ในรูปแบบของการเป็น Search Engine Provider อันดับหนึ่งของประเทศจีน แต่ก็คงไม่ได้นึกถึงว่า Baidu จะกระโดดเข้ามาร่วมขบวน Metaverse เร็วขนาดนี้ เชื่อว่าถ้าพูดถึงบริษัทจีนที่จะทำ Metaverse หลายๆ คนคงนึกถึง Tencent ไม่ก็ Alibaba ก่อน

แต่เป็นที่น่าสนใจ เพราะเมื่อปลายปีที่ผ่านมา Baidu ได้เปิดตัวและเผยโฉม “Xi Rang” แพลตฟอร์ม Metaverse ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยทางบริษัท โดยคำว่า Xi Rang นั้นแปลว่า Land of Hope หรือ “ดินแดนแห่งความหวัง”

โดยลักษณะโลกของ Xi Rang ที่พึ่งเปิดตัวให้เห็นครั้งแรกจะเป็นในรูปแบบดังนี้

[ ] ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปในเมืองจำลองของ Xi Rang ได้บนแอปพลิเคชัน ผ่านคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน รวมถึงแว่น VR และ VR คอนโทรลเลอร์
[ ] ผู้ใช้งานจะเข้าไปอยู่ในเมืองจำลองเมืองหนึ่งที่มีชื่อว่า “Creator City” ที่ทั้งมีการสร้างสถาปัตยกรรมขึ้นมาใหม่ และจำลองสถานที่ที่มีชื่อเสียงต่างๆ ขึ้นมาใหม่ เช่น วัดเส้าหลิน เป็นต้น
[ ] ผู้ใช้งานสามารถที่จะเข้าไปสร้างอวาตาร์ได้โดยจะแตกต่างจาก Horizon World ของ Meta หรือ Mesh ของ Microsoft ตรงที่อวาตาร์ของ Baidu จะมีขา ไม่ลอยไปลอยมาครึ่งตัว และที่สำคัญยังสามารถสร้างอวาตาร์ขึ้นมาให้ผู้ใช้งานผ่านการอัปโหลดรูปของเราขึ้นไป
[ ] ผู้ใช้งานสามารถมีปฏิสัมพันธ์ และสื่อสารกับคนอื่นๆ บนแพลตฟอร์ม

โดยในปัจจุบันแพลตฟอร์ม Xi Rang ยังเป็นตัวต้นแบบอยู่ โดยทาง Baidu คาดว่าแพลตฟอร์มตัวสมบูรณ์จะถูกพัฒนาแล้วเสร็จในอีก 6 ปีข้างหน้า ซึ่ง ณ ปัจจุบันแพลตฟอร์มยังสามารถรองรับผู้เล่นได้เพียงจำนวนไม่มาก แต่ภายใต้การพัฒนานี้ ทาง Baidu ก็มีแผนที่จะค่อยๆ เพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ เข้าไปบน Xi Rang ให้มีความหลากหลายและตอบโจทย์คนหลากหลายกลุ่มมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านของการศึกษาออนไลน์ หรือส่วนของการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง

โลก Metaverse จะมีกี่ใบกัน 03

Epic Games

ถ้าหากพูดถึงรูปแบบของ Metaverse กันแล้ว หลายคนคงบอกว่าก็คล้ายๆ กับเกม Fortnite นั่นแหละ ซึ่งทาง Tim Sweeney ผู้เป็น CEO ของ Epic Games เคยกล่าวในทำนองที่ว่า “Metaverse นั้นเป็นเหมือนกับอินเทอร์เน็ต ไม่มีบริษัทใดเป็นเจ้าของมันแต่เพียงผู้เดียว” ทำให้แน่นอนว่าไม่ใช่แค่บริษัทเกมอย่าง Epic Games ที่เข้าร่วมในการแข่งขันนี้ แต่บริษัทเกมรายใหญ่อื่นๆ อย่าง Roblox หรือ Minecraft ก็เข้ามาลงสนามแข่งด้วยเช่นกัน

แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า Metaverse ไม่ได้เป็นไอเดียที่ใหม่กิ๊กสำหรับบริษัทเทคฯ เหล่านี้สักเท่าไหร่ เพราะก่อนที่ Meta จะประกาศเป้าหมาย Metaverse ของตัวเองนั้น ทาง Epic Games ก็ได้ระดมทุนกว่า 1 ร้อยล้านสหรัฐฯ เพื่อทำการสนับสนุนวิสัยทัศน์ระยะยาวของบริษัท หรือก็คือ “Metaverse” นั่นเอง

โดยโมเดลที่ดูจะใกล้เคียงมากที่สุดของ Epic Games ก็คือ Fortnite เกมแนวต่อสู้เอาชีวิตรอด ที่นอกจากเกมแล้วยังมีฟีเจอร์อย่าง

[ ] สามารถสร้างอวาตาร์ ที่สามารถเลือกสกิน เลือกเครื่องแต่งกาย และทรงผม
[ ] ขยายการเล่นเกมสู่พื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ปฏิสัมพันธ์กันผ่านโหมด “Party Royale” ที่ไม่ได้มีไว้ยิงกันหรือไม่ได้มีไว้ต่อสู้ แต่มีไว้เพื่อเล่นกิจกรรม พบปะสังสรรค์คนอื่นบนแพลตฟอร์ม
[ ] ก่อนหน้านี้ Fortnite ยังเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำหรับการจัด Virtual Concert หรือคอนเสิร์ตออนไลน์ที่ผสมผสานเทคโนโลยี 3D ผสมผสานกับการสร้างสรรค์แต่ละส่วนของคอนเสิร์ตให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ที่ไม่ใช่แค่การนั่งดูเฉยๆ แต่สามารถที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับด่านต่างๆ โดยนักร้องชื่อดังที่เคยจัดไปแล้วก็จะมี Travis Scott, Ariana Grande และ Marshmello
[ ] หลังจากที่กระแส Metaverse เริ่มเป็นที่สนใจ ก็มีหลากหลายแบรนด์แฟชันที่มาจับมือกับ Fortnite หลายราย ไม่ว่าจะเป็น Balenciaga หรือ Nike Jordan ทำให้เป็นที่น่าสนใจว่าต่อไปนี้แบรนด์อื่นๆ จะขยับเข้ามาทำการตลาดผ่านโลกเสมือนเหล่านี้มากขึ้นหรือไม่

ถึงแม้ว่า ณ ปัจจุบัน Fortnite จะเป็นแค่เกม แต่ถือว่า Fortnite ก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพอย่างมากที่จะกลายมาเป็นต้นแบบของโลก Metaverse ของ Epic Games อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องมาดูกันอีกทีว่าสุดท้ายแล้วโลก Metaverse ของ Epic Games จะออกมาในรูปแบบไหนกัน

Advertisements
โลก Metaverse จะมีกี่ใบกัน 04

Meta

“The Metaverse will be social” – “Metaverse จะเป็นสังคม”
.
หากใครเข้าเว็บไซต์ของ Meta ไปก็คงจะเจอประโยคนี้ปรากฏอยู่บนวิดีโอ Keynote ของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ถ้าหากใครกดเข้าไปดูก็คงจะคิดว่าโลก Metaverse ของ Meta เหมือนกับฉากในหนังซะอย่างไงอย่างงั้น โดยทางด้าน CEO ของ Meta ก็เผยว่า Metaverse ยังเหลือระยะทางอีกยาวไกลกว่าจะสามารถเข้าสู่เมนสตรีมได้ ก็น่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 5-10 ปีเลยทีเดียว

โดยการเข้าสู่ Metaverse จะเปิดโอกาสให้ผู้คนได้เผชิญกับประสบการณ์ใหม่ในการใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆ ซึ่งหากอิงจาก Keynote ก็จะมีอยู่ 7 ด้านหลักๆ ด้วยกัน คือ (1) การเชื่อมต่อระหว่างกัน – Social Connections (2) ความบันเทิง – Entertainment (3) เกม – Gaming (4) การออกกำลังกาย – Exercise (5) การทำงาน – Work (6) การศึกษา – Education และ (7) การค้า – Commerce

ซึ่งทั้ง 7 อย่างนี้ก็แทบจะครอบคลุมเกือบทุกมิติในชีวิตของคนเราแล้ว แต่อย่างไรก็ตามกว่าจะไปถึงจุดถึงครบและสมบูรณ์อย่างนี้ได้ แน่นอนว่าจะต้องใช้เวลาพัฒนาอย่างมาก ซึ่งในระหว่างนี้เราก็อาจจะได้เห็น Meta ออกโปรเจกต์หรือแพลตฟอร์มอะไรออกมาให้เราได้ลองเข้าสู่โลก Metaverse กันบ้าง

อย่างล่าสุดที่ออกมาคือ “Horizon Worlds” ที่เปิดให้เข้าไปเล่นผ่านการสวมใส่แว่น Oculus โดย Horizon Worlds จะเป็นเหมือนกับโลกจำลองที่ให้เราสามารถเข้าไป

[ ] สร้างอวาตาร์ของตัวเองได้ โดยอวาตาร์ใน Horizon Worlds จะเป็นในรูปแบบครึ่งตัวเท่านั้น แต่สามารถที่จะเลือกรูปลักษณะของอวาตาร์ของเราได้ตามต้องการ
[ ] สามารถไปตามสถานที่ต่างๆ ใน Horizon Worlds ผ่าน Telepods
[ ] สามารถที่จะพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานคนอื่นๆ
[ ] สามารถที่จะเข้าไปเล่นได้ 3 โหมดคือ เกม (Games), อีเวนต์ (Attend) และพบปะผู้คน (Hang Out)
[ ] ผู้ใช้งานสามารถที่จะสร้างโลกของตัวเองได้เช่นกัน

โดยในตอนนี้ Horizon Worlds เปิดให้ใช้งานแค่ในแคนาดาและสหรัฐฯ เท่านั้น โดยผู้ใช้งานจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งนี่ก็ยังถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นของ Meta ในการที่จะพาทุกคนเข้าสู่โลก Metaverse ที่ทางบริษัทได้ตั้งเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ไว้ ทำให้เราก็ต้องมารอจับตาดูกันว่า ใน 5-10 ปีที่จะถึงนี้ ทาง Meta จะมีการพัฒนาอย่างไร และจะปล่อยอะไรใหม่ๆ ออกมาหรือไม่ เพื่อที่จะสร้างโลก Metaverse ที่สมบูรณ์ในฉบับของ Meta

โลก Metaverse จะมีกี่ใบกัน 05

Microsoft

คงเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า เมื่อบริษัทเทคฯ ระดับโลกต่างกระโดดเข้ามาในสนามกันหมด บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Microsoft คงไม่พลาดที่จะมีส่วนร่วมกับโลก Metaverse บ้าง

“เราจะไม่ได้ทำแค่วิดีโอคอลหาเพื่อนร่วมงานอีกต่อไป เราสามารถที่จะอยู่กับพวกเขาในห้องเดียวกัน – เราจะไม่ได้แค่เล่นเกมกับเพื่อนอีกต่อไป เราจะไปอยู่ในเกมกับพวกเขา” ประโยคนี้เป็นประโยคที่ Satya Nadella ได้กล่าวตอนเล่าถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทต่อ Metaverse โดยการก้าวสู่ Metaverse ในครั้งนี้จะเริ่มจากแพลตฟอร์มที่มีอยู่แล้วของ Microsoft อย่าง Microsoft Teams นั่นเอง

Advertisements

จุดเริ่มต้นของ Microsoft อาจจะแตกต่างจากรายอื่นๆ ตรงที่เริ่มจากชีวิตฝั่งของการทำงานก่อนผ่านการผสาน “Mesh” เข้ามาทำให้การทำงานร่วมกันนั้นใกล้ชิดกันมากขึ้น มีมิติมากขึ้น รู้สึกถึงกันและกันมากขึ้น และมีความเป็นดิจิทัลมากขึ้น โดยหลักๆ แล้ว Mesh จะประกอบไปด้วย

[ ] การเข้าถึงที่สามารถเข้าได้ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน แล็ปท็อป จนไปถึงการใช้เทคโนโลยี MR
[ ] ในตอนนี้สิ่งที่หลายๆ คนจะได้ใช้บน Mesh คือการสร้างอวาตาร์ของตัวเองขึ้น เพื่อใช้เป็นรูปโปรไฟล์ หรือใช้ในวิดีโอคอล
[ ] องค์กรต่างๆ ยังสามารถที่จะสร้างพื้นที่ของตัวเองขึ้นมาภายใน Teams เพื่อที่ผู้ใช้งานจะสามารถใช้อวาตาร์ของตัวเองไปยังพื้นที่นั้นๆ เพื่อที่จะพูดคุย ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยเล่น คุยงาน หรือการประชุม

ในตอนนี้มีองค์กรอย่าง Accenture ได้นำ Mesh เข้าไปใช้บ้างแล้ว โดยมีการสร้างพื้นที่เพื่อให้พนักงานมาพบปะเจอกันอย่าง One Accenture Park ซึ่งการเริ่มต้นนี้ของ Microsoft ก็ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าการทำงานแบบไฮบริดจะอยู่กับเราอีกนาน ดังนั้นการเริ่มต้นผสาน Metaverse กับโลกแห่งการทำงาน ก็เป็นอะไรที่ใกล้ตัวผู้คนค่อนข้างมาก ทำให้เป็นที่น่าจับตาดูว่า Mesh for Microsoft Teams จะถูกพัฒนาต่อไปอย่างไร และ Microsoft จะปล่อยอะไรเจ๋งๆ เกี๋ยวกับ Metaverse ออกมาอีกหรือไม่

อ้างอิง:
https://bit.ly/3pQiW7B
https://bit.ly/3eR5NVn
https://bit.ly/3EOsRyB
https://bit.ly/32IzLJ0
https://bit.ly/3zqyKkx
https://bit.ly/32OXuXJ
https://ocul.us/3zs8iqB
https://bit.ly/3zofLqK


#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#metaverse

Advertisements

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่