แน่นอนว่า การมีพลัง “ย้อนเวลา” กลับไปแก้ไขสิ่งที่เคยทำผิดพลาดเมื่อครั้งอดีต อาจเป็นคำตอบที่อยู่ในใจใครหลายๆ คน
เรื่องที่เคยทำไม่ดีกับคนในครอบครัว คำพูดที่เคยใช้ทำร้ายคนรักอย่างไม่ทันระวัง สิ่งเหล่านี้ติดอยู่ในใจผู้คน ที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้ เพราะ “กฎธรรมชาติ” ขีดเส้นแบ่งไว้เรียบร้อย ว่าเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตได้และต้องก้าวไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว
และแน่นอน การมูฟออน จากเรื่องผิดพลาด ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ แต่ถ้าหากเราสามารถอยู่เหนือ “กฎธรรมชาติ” ได้ขึ้นมาล่ะ… ชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้?
นี่เป็นคอนเซปต์ของ “TENET” หนังเรื่องใหม่จาก คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่เลือกนำเสนอแนวคิดฉีกกฎธรรมชาติ การข้ามเวลาเพื่อเปลี่ยนอนาคต ภายใต้ทฤษฎีที่มีชื่อว่า “Entropy”
“Entropy” อธิบายแบบง่ายๆ คือ ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นกับชีวิต เพราะทุกๆ การกระทำที่ได้ทำลงไป ส่งผลต่ออนาคตเสมอ
เช่น เราไม่มีทางรู้ได้อย่างแน่นอนแบบ 100% เลยว่า ครั้งไหนจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้คุยกับคนที่เรารัก ไม่รู้เลยว่าครั้งไหนจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้ลูบหัวน้องหมาตัวโปรดที่นั่งหงอยรอเราอยู่ที่บ้าน หรือแม้แต่ตัวเราเอง เอาจริงๆ เราก็ไม่สามารถที่จะบอกได้เลยว่า เราจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน วันไหนคือวันสุดท้ายของเรา
ทุกอย่างบนโลกนี้ไม่มีอะไรที่ 100% จริงๆ…
Entropy จึงเปรียบเสมือนกับการโยนเหรียญ หัว-ก้อย ที่แม้จะมีเพียงแค่สองด้าน ที่แม้แต่นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล ก็ไม่สามารถทำนายได้ถูกต้องในทุกครั้งไป
แต่หากมนุษย์สามารถควบคุม Entropy ให้มี “ทางเลือก” ลดลงได้ อนาคตเราจะเป็นอย่างไร?
โลกของคุณจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะการ Control Entropy = Control Future Moment
อนาคตที่ไม่แน่นอนจะถูกทำให้แน่นอนโดย “ตัวคุณเอง” การตัดสินใจของคุณจะสามารถทำสิ่งที่ถูกต้องตรงใจ 100% ไร้ข้อผิดพลาดในชีวิต และไม่จำเป็นต้องมานั่งวิตกกังวลว่า จะไปทำอะไรให้ใครเสียใจอีกต่อไป เป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบ เปรียบเสมือนการบริหาร “ชีวิตที่ไร้ความเสี่ยง”
แต่ของฟรีไม่มีในโลกแน่นอน… เพราะหากคุณมีพลังควบคุมอนาคต สิ่งที่คุณจะเสียคืออะไร?
“ประสบการณ์การล้มเหลว” การตัดสินใจที่ผิดพลาด ที่หาเรียนตามตำราไหนๆ บนโลกไม่ได้
เคยมีคำกล่าวที่ว่า วิธีการสร้างภูมิปัญญาของมนุษย์ตลอดชีวิต เกิดจาก 3 สิ่งคอยส่งเสริมกัน ได้แก่
#เกิดจากประสบการณ์อันแสนขมขื่นของตัวบุคคล ซึ่งข้อนี้เอง คือ ปัจจัยสำคัญที่มนุษย์ไม่สามารถแบ่งปันความรู้สึกแก่ผู้อื่นได้ “หากไม่พบเจอประสบการณ์นี้ด้วยตัวเอง”
ครั้งหนึ่ง…. โคบี้ ไบรอันท์ ตำนานนักบาสผู้ล่วงลับ เคยฝากแง่คิดไว้ว่า “หากผมมีพลังที่จะย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งต่างๆ ในอดีต ผมจะไม่ใช้มันเป็นอันขาด… เพราะทุกๆ โมเมนต์แห่งความทรงจำที่คุณก้าวข้ามผ่านมาจะไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะคุณจะไม่ได้เรียนรู้กับประสบการณ์เหล่านั้น”
ความล้มเหลว คือ รสชาติอันสวยงามของชีวิต คุณจะเรียนรู้และจดจำมันไม่รู้ลืม และเมื่อมองย้อนกลับ ทุกเรื่องแย่ๆ อาจมีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่ เพียงยังไม่ถึงเวลาแห่งการ “ตกตะกอนความคิด” เท่านั้นเอง
เพราะเอกลักษณ์ที่เกิดจากความแตกต่างของประสบการณ์ในชีวิต ทำให้มนุษย์เรากลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจ
และ “Entropy of Life – ชีวิตอันแสนยุ่งเหยิง” ของมนุษย์เรานี่แหละ ที่อาจเป็น “พลังพิเศษ” ติดตัวคุณมาโดยกำเนิด เพราะทุกสรรพสิ่งเคลื่อนตามกาลเวลาแบบ “เดินไปข้างหน้า และ ไม่มีทางย้อนกลับ” อันเป็นกฎของธรรมชาติ
เมื่อรู้ดังนี้แล้ว คุณยังอยากควบคุม Entropy ได้อยู่หรือไม่? คอมเมนต์กันมาได้ด้านล่างเลยครับ
Author: Supakorn Thepvichaisinlapakun
Illustrator: Pimpawee Pratumrat
อ้างอิง:
Advertisements
