คำเตือน: เนื้อหาต่อไปนี้มีการสปอยล์อนิเมะ Attack on Titan Season 4 บางส่วน
ช่วงนี้กระแสอนิเมะ Attack on Titan ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง และเราเชื่อว่าเพื่อนหลายๆ คนที่ติดตามเพจ Mission To Pluto ก็เป็นแฟนคลับอนิเมะเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน วันนี้เราเลยอยากหยิบประเด็นจากอนิเมะเรื่องนี้มาพูดถึงกันสักหน่อย
หลังจาก Episode 8 ออกอากาศไปเมื่อวันจันทร์ อนิเมะเรื่องนี้ก็ได้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง เนื่องจากเกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นในอีพีนี้ ซึ่งตัวละครที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือตัวละครใหม่อย่าง “กาบิ” นั่นเอง
กาบิ คือตัวละครเด็กผู้หญิงอายุ 12 ปีที่เพิ่งโผล่มาในซีซัน 4 ซึ่งหากวิเคราะห์แล้ว กาบิก็คือเอเรนเวอร์ชันเด็กดีๆ นี่เอง ด้วยคาแรกเตอร์สุดโต่งในหลายๆ ด้านที่เหมือนกันมากอย่างกับกดคอนโทรลซี ไม่ว่าจะเป็นการเกลียดศัตรูเข้าไส้ถึงขนาดที่อยากฆ่าล้างบางให้หมด ความหัวดื้อหัวรั้นขี้โวยวาย การบุกเข้าหาศัตรูแบบผลีผลามโดยไม่คิดถึงชีวิตตัวเอง (และด้วยคาแรกเตอร์เหล่านี้นี่เอง ทำให้คนดูหลายคนเริ่มรำคาญกาบิกันพอสมควร)
แน่นอนว่าการที่เด็กอายุ 12 จะเกลียดอะไรได้หน้ามืดตามัวขนาดนั้นย่อมมีสาเหตุ สำหรับกาบิแล้ว เธอถูกสอนมาโดยตลอดว่าชาวเอลเดียในเกาะพาราดีคือคนชั่ว เป็นปีศาจที่เคยสร้างหายนะให้กับชาวมาร์เลย์และก่อเรื่องแย่ๆ มามากมายในอดีต โดยคนเป่าหูก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นรัฐบาลมาร์เลย์ ศัตรูคู่ปรับตลอดกาลของชาวเอลเดียนั่นเอง ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ต่างอะไรกับเอเรนในตอนแรกที่มองว่าทุกคนนอกเกาะพาราดีคือศัตรูที่ต้องกำจัดให้สิ้นซากไปทั้งหมด
ถ้าถามว่าการเป่าหูของมาร์เลย์ได้ผลแค่ไหน ก็คงต้องบอกว่าได้ผลจนทำให้กาบิใช้ความเกลียดชังที่สะสมมาตลอดจบลงด้วยการฆ่าหนึ่งในตัวละครสำคัญของเรื่อง เล่นเอาแฟนๆ ไททันเจ็บช้ำหัวใจกันไปตามๆ กัน (รวมถึงคนเขียนด้วย TT) แต่ที่น่าสนใจก็คือความเห็นได้แตกออกเป็นสองเสียงอย่างชัดเจน โดยฝั่งแรกมีจุดยืนที่ว่าไม่ชอบกาบิมากๆ ที่เอาแต่เชื่อในสิ่งที่ถูกปลูกฝังมาโดยไม่มองความเป็นจริงบ้างเลย ส่วนอีกฝั่งก็มีจุดยืนว่ากาบิไม่ผิดเพราะถูกล้างสมองมาตลอดว่าให้เชื่อแบบนั้น
คำเตือน : เนื้อหาต่อไปนี้มีการสปอยมังงะ Attack on Titan บางส่วน
อย่างไรก็ตาม หลังจากกาบิได้บังเอิญไปใช้ชีวิตอยู่บนเกาะพาราดีพักหนึ่ง ก็ได้ค้นพบว่า จริงๆ แล้วเธอเข้าใจผิดมาโดยตลอด มนุษย์บนเกาะพาราดีไม่ได้ชั่วร้ายเป็นปีศาจอย่างที่คิด แต่กลับเป็นคนธรรมดาเหมือนกับเธอนี่แหละ
ในความเป็นจริง เราหลายๆ คนก็อาจจะเป็นเหมือนกาบิโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน ที่เหมารวมกลุ่มคนว่าเป็นคนแบบนี้โดยไม่วิเคราะห์เป็นรายบุคคลไป บางทีเราอาจจะต้องเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อนเพื่อทำให้ตัวเองตาสว่างเหมือนกาบิก็เป็นได้ ใครจะรู้ว่าท้ายที่สุดเราอาจจะได้พูดประโยคเดียวกับกาบิที่ว่า
“บนเกาะนี้ไม่มีปีศาจอะไรทั้งนั้น ไม่เลย มีแค่มนุษย์นี่ล่ะ ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าไรเนอร์รู้สึกยังไง ฉันไม่เคยเจอคนพวกนี้มาก่อนเลย แต่ฉันก็ตัดสินไปแล้วว่าพวกเขาคือปีศาจ”
แล้วคุณล่ะเลือกที่จะอยู่ฝั่งไหน?
Advertisements
