ยุคนี้เราจะได้ยินคำว่า VUCA World กันอยู่บ่อยๆ ซึ่งอธิบายลักษณะของโลกในปัจจุบันว่า
1. V – Volatility ผันผวน
2. U – Uncertainty ไม่แน่ไม่นอน
3. C – Complexity ซับซ้อน
4. A – Ambiguity คลุมเครือ
ในโลกแบบนี้การวางแผนอะไรระยะยาว ดูจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากจริงๆ เราอาจจะทำได้แค่วางทิศทางคร่าวๆ แล้วค่อยทำไปเรียนรู้ไป
บางทีทำๆ ไป สิ่งที่ทำนั้นอาจไม่เหมือนกับความตั้งใจเดิมในตอนแรกเลยก็เป็นไปได้
จะว่าไปแล้วไม่ใช่แค่ยุคนี้ แต่ในอดีตหลายธุรกิจก็มีการปรับเปลี่ยนตัวเองอยู่ตลอดเวลา ข้อมูลจาก Visual Capitalist ทำให้เรารู้ว่า ธุรกิจหลายอย่างที่เราเห็นตอนนี้ ระหว่างทางมันไม่ได้หน้าตาแบบนี้เลย ตัวอย่างที่น่าสนใจมีดังต่อไปนี้
1. Samsung ก่อตั้งในปี 1938 และใช้เวลาในช่วง 1950-1960 ทดสอบโมเดลธุรกิจหลายอย่างตั้งแต่ขายผ้าไปยันปลาแห้งก็มี และเข้าสู่ตลาดอิเล็กทรอนิกส์อย่างจริงจังในการออกทีวีขาวดำในปี 1970 จนในปัจจุบัน Samsung มีมูลค่าบริษัทถึง 275,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าบริษัท Toyota และเป็นผู้นำในตลาดอิเล็กทรอนิกส์หลายอย่าง เช่น สมาร์ตโฟนและทีวี เป็นต้น
2. Apple ก่อตั้งในปี 1976 เริ่มต้นจากการขายเครื่องคอมพิวเตอร์ให้โรงเรียน และอยู่ในธุรกิจที่ค่อนข้าง niche พอสมควร จนกระทั่งการเปิดตัว iPod ในปี 2001 และ iPhone ในอีก 5 ปี ซึ่งทั้งสองเปลี่ยนรูปแบบของธุรกิจเพลงและโทรศัพท์มือถือไปตลอดกาล ปัจจุบัน iPhone คือสินค้าที่ขายดีที่สุดของ Apple และเป็นบริษัทแรกของโลกที่มีมูลค่าทะลุ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบๆ 4 เท่าของ GDP ประเทศไทย
3. Youtube ตอนที่เริ่มต้นในปี 2005 Youtube เริ่มจากความตั้งใจที่จะเป็นแพลตฟอร์ม Video Dating ในช่วงแรกๆ ไม่ค่อยมีคนมาใช้งานจน Youtube ต้องไปโพสต์ใน Craiglist ให้สุภาพสตรีมาอัปโหลด VDO โดยมีค่าอัปโหลด 20 เหรียญ แต่ก็ไม่มีใครสนใจเท่าที่ควร ในที่สุด Youtube ก็เลยตัดสินใจให้ใครอัปโหลด VDO อะไรก็ได้
ภายในปีเดียวก็ถูก Google ซื้อไปด้วยมูลค่า 1,650 ล้านเหรียญสหรัฐ และปัจจุบันมีผู้ใช้งาน YouTube มากถึง 2,000 ล้านคนต่อวัน
4. Shopify ก่อตั้งในปี 2004 แรกเริ่มเดิมทีเป็นร้านขายสโนว์บอร์ดชื่อ Snowdevil แต่เจ้าของร้านต้องการให้ลูกค้ามีประสบการณ์ออนไลน์ด้วย เลยเริ่มออนไลน์ชอปปิ้งขึ้นมา และในปี 2006 eCommerce Platforms แรกของ Shopify ก็เกิดขึ้น ปัจจุบัน Shopify มีมูลค่า 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
มีตัวอย่างแบบนี้อีกมากมาย เช่น Nokia เริ่มต้นด้วยการขายรองเท้าบูท, Nintendo เป็นบริษัทขายไพ่มาก่อน หรือ Twitter เอง แรกเริ่มเดิมทีความตั้งใจคือการทำแพลตฟอร์ม Podcast เป็นต้น
หรืออย่างถ้าเป็นบริษัทของคนไทย RS Group ก็เป็นตัวอย่างที่ดี ปัจจุบันรายได้จากการขายสินค้าของ RS แซงหน้าธุรกิจเพลงและมีเดียไปไกลแล้ว
โดยส่วนตัวเชื่อว่า ในอนาคตเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบนี้เร็วขึ้นกว่าสมัยก่อนอีกมาก หลายธุรกิจจะต้องเปลี่ยนตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อหาโอกาสหรือเพื่อความอยู่รอด
ถึงอย่างไรก็ดีคำว่า “โฟกัส” กับอะไรบางอย่างยังคงใช้ดีเหมือนเดิม
แต่โลกยุคนี้โฟกัสแค่งานที่เราทำอยู่ยังไม่พอ อาจะต้อง ”โฟกัส” ไปที่การหาโอกาสที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงด้วย
Winston Churchill เคยกล่าวไว้ว่า
“To improve is to change; to be perfect is to change often.”
“การเปลี่ยนแปลงคือการพัฒนา และการสร้างความยอดเยี่ยมคือการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ”