เว็บไซต์
bouncefeed.com
รายงานว่า นี่คือหนึ่งในงานวิจัยที่อาจจะเป็นผลดีกับมนุษยชาติในอนาคต เกี่ยวกับอาหารทดแทนอย่างเช่น ‘แมลง’ ที่จะมาเป็นแหล่งอาหารหลักสำหรับมนุษย์ในอนาคต เพราะเมื่อทรัพยากรโลกขาดแคลน แมลงอาจเป็นหนึ่งในทางออกของมนุษย์ที่อาจเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาได้
เนื่องจากแมลงหลายชนิดนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูง ให้โปรตีนเยอะ แถมยังมีจำนวนมาก มีการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว และใช้พื้นที่น้อย ทำให้นักวิทยาศาสตร์หลายคนเริ่มให้ความสนใจและเริ่มทำการวิจัยกันมากขึ้น
อย่างงานวิจัยล่าสุดที่ค้นพบว่า นอกจากนมวัว, นมอัลมอนด์ และนมถั่วเหลือง ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง ยังมีอีกชนิดหนึ่งที่ถูกค้นพบก็คือ “Cockroach Milk” หรือ นมแมลงสาบ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่านมวัวถึง 4 เท่า
เพราะในน้ำนมของแมลงสาบอุดมไปด้วยกรดอะมิโนจำเป็นครบทั้ง 9 ชนิด แต่เนื้อสัตว์ส่วนใหญ่ที่เรากินกันอยู่มักจะขาดกรดอะมิโนชนิดใดชนิดหนึ่งไป ยังไม่นับว่านมแมลงสาบนั้นให้โปรตีนสูง มีแร่ธาตุอย่าง เหล็ก สังกะสี และแคลเซียมที่สูงมากๆ และมีไขมันที่พบได้ในนมปกติรวมถึงมีน้ำตาลที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย แถมรสชาติยังแทบไม่ต่างจากนมวัวอีกด้วย
มีบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศแอฟริกาใต้ กำลังทำฟาร์มแมลงสาบเพื่อผลิตน้ำนมชื่อว่า “Entomilk” ซึ่งนมที่ว่านี้ได้มาจากผลึกในลำไส้ของแมลงสาบพันธุ์ออสเตรเลียแปซิฟิก (บริษัทนี้ยังคิดค้นไอศกรีมสูตรนมแมลงที่ว่ากันว่ารสชาติดีมากๆ อีกด้วย)
การจะได้นมแมลงสาบในตอนนี้ ต้องใช้แมลงสาบตัวเมียและตัวอ่อนของมันประมาณ 1,000 ตัวขึ้นไปเพื่อให้ได้น้ำนมปริมาณ 3.5 ออนซ์ หรือประมาณ 100 กรัม
แถมนมแมลงสาบยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่แพ้แลคโตสหรือแพ้นม ซึ่งเป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อ 65% ของคนทั่วโลก ที่สาเหตุมาจากการขาดแลคเตสซึ่งเป็นเอนไซม์ย่อยน้ำตาลแลคโตสในนม ผู้ที่มีอาการแพ้จึงอาจมีอาการท้องร่วง ท้องอืด คลื่นไส้ หลังจากที่ดื่มนมไป ทำให้นมแมลงสาบที่คล้ายนมแต่ไม่ใช่นม ปราศจากแลคโตสและผู้ที่มีอาการแพ้สามารถดื่มได้อย่างสบายใจ (ถ้าไม่ติดเรื่องที่มาของมันนะ)
แปลและเรียบเรียงจาก: